สารนิพนธ์ บริหารธุรกิจมหาบัณฑิต

การปรับปรุงกระบวนการควบคุมวัตถุดิบสินค้าในคลังสินค้า

Process Improvement for Raw Material Control in a Warehouse

กรณีศึกษาบริษัทแห่งหนึ่งในจังหวัดปราจีนบุรี

โดย: นายศราวุธ รวมทรัพย์ (6717021856035)

อาจารย์ที่ปรึกษา: รองศาสตราจารย์ ดร.ทิชากร เกษรบัว

โลโก้มหาวิทยาลัย

หัวข้อการนำเสนอ (Agenda)

ภาพรวมและสภาพปัญหา

ผลิตภัณฑ์และอุตสาหกรรม

Industries Served Sample Products 1 Sample Products 2 Sample Products 3

บริษัทกรณีศึกษา

  • บริษัท: XXXXXXX .
  • เครือข่าย: เป็นส่วนหนึ่งของ XXXXXXX .
  • ธุรกิจหลัก: ผลิตและจัดจำหน่ายโซลูชั่นทางวิศวกรรม

สภาพปัญหา (The Gap)

  • มากเกินไป: เกิดต้นทุนจม (Holding Cost)
  • น้อยเกินไป: เสี่ยงต่อการหยุดผลิต (Stock Out)

งานวิจัยนี้จึงมุ่งเสนอแนวทางเพื่อ เพิ่มประสิทธิภาพและลดต้นทุน

ผลการวิเคราะห์สภาพปัจจุบัน (VSM)

แผนภาพสายธารคุณค่า (Value Stream Map)

ประเด็นปัญหาที่ค้นพบ

  • สต็อกวัตถุดิบล้นคลัง: มีการถือครองวัตถุดิบสูงถึง 78 วัน ทำให้ต้นทุนจมและเสี่ยงของเสื่อมสภาพ
  • คอขวดในกระบวนการ: ระยะเวลานำการผลิต (Lead Time) นานถึง 12 วัน ส่วนใหญ่คือการรอคอย
  • ความขัดแย้งของข้อมูล: สต็อกสูงแต่ของยังขาด? ชี้ชัดว่าปัญหาเกิดจาก "การจัดการภายใน" ไม่ใช่การขาดแคลนวัตถุดิบ

วัตถุประสงค์และขอบเขตการวิจัย

วัตถุประสงค์การวิจัย

  1. เพื่อศึกษากระบวนการควบคุมวัตถุดิบปัจจุบัน
  2. เพื่อวิเคราะห์และจำแนกประเภทวัตถุดิบ (ABC/XYZ)
  3. เพื่อเสนอแนวทางปรับปรุงนโยบายการสั่งซื้อ (EOQ)
  4. เพื่อเปรียบเทียบต้นทุนรวมของสินค้าคงคลัง

ขอบเขตการวิจัย

  • เนื้อหา: ประยุกต์ใช้ทฤษฎี ABC, XYZ, และ EOQ
  • ข้อมูล: ผลิตภัณฑ์กลุ่ม "Electronics Power" (ต.ค. 66 - ก.ย. 67)
  • ประชากร: พนักงานแผนกคลังสินค้า 8 ท่าน (สัมภาษณ์)

บทที่ 2: ทฤษฎีที่เกี่ยวข้อง

การวิเคราะห์ ABC

จัดกลุ่มตาม "มูลค่าการใช้งาน"

เพื่อจัดลำดับความสำคัญในการควบคุม (กฎ 80/20)

การวิเคราะห์ XYZ

จัดกลุ่มตาม "ความผันผวนของอุปสงค์"

เพื่อกำหนดนโยบายการพยากรณ์และสต็อก

แบบจำลอง EOQ

หา "ปริมาณสั่งซื้อที่ประหยัดที่สุด"

สร้างสมดุลระหว่างต้นทุนสั่งซื้อและจัดเก็บ

กรอบแนวคิดการวิจัย

ปัญหา: การควบคุมวัตถุดิบคงคลังไม่มีประสิทธิภาพ
วิเคราะห์สถานะปัจจุบัน: ศึกษากระบวนการและรวบรวมข้อมูล
การวิเคราะห์ ABC

(จัดกลุ่มตามมูลค่า)

การวิเคราะห์ XYZ

(จัดกลุ่มตามความผันผวน)

การบูรณาการ: สร้าง Matrix ABC/XYZ เพื่อกำหนดกลยุทธ์
การออกแบบนโยบาย: ประยุกต์ใช้ EOQ สำหรับกลุ่ม A
การประเมินผล: เปรียบเทียบต้นทุนรวม (เดิม vs. ใหม่)

บทที่ 3: วิธีดำเนินการวิจัย

รูปแบบและเครื่องมือ

รูปแบบ: วิจัยเชิงปริมาณ (Quantitative) แบบกรณีศึกษา (Case Study)

เครื่องมือหลัก:

  • ABC/XYZ Analysis, EOQ Model
  • การสังเกตการณ์, การสัมภาษณ์เชิงลึก
  • Microsoft Excel

การเก็บรวบรวมข้อมูล

ข้อมูลทุติยภูมิ (Secondary):

BOM, ประวัติการสั่งซื้อ, ต้นทุน จากระบบบริษัท

ข้อมูลปฐมภูมิ (Primary):

การสังเกตการณ์ และการสัมภาษณ์พนักงาน

ขั้นตอนการวิเคราะห์ข้อมูล

  1. วิเคราะห์ ABC: คำนวณมูลค่าการใช้งานต่อปี แล้วแบ่งกลุ่ม A, B, C
  2. วิเคราะห์ XYZ: คำนวณค่าความผันผวน (CV) แล้วแบ่งกลุ่ม X, Y, Z
  3. สร้างเมทริกซ์ ABC/XYZ: สร้างตาราง 9 ช่อง เพื่อกำหนดนโยบาย
  4. คำนวณ EOQ: นำวัตถุดิบกลุ่ม A มาหาปริมาณสั่งซื้อที่เหมาะสมที่สุด
  5. เปรียบเทียบผลลัพธ์: เปรียบเทียบต้นทุนรวมของนโยบายปัจจุบันกับใหม่

ประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับ

ต่อบริษัทกรณีศึกษา

  • ได้แนวทางการจัดการวัตถุดิบที่เป็นระบบ
  • ช่วยลดต้นทุนรวมในการจัดการสินค้าคงคลัง
  • ลดความเสี่ยงสินค้าขาดมือหรือล้นสต็อก
  • เพิ่มประสิทธิภาพกระบวนการทำงาน

ต่อวงการวิชาการ

  • เป็นกรณีศึกษาของการประยุกต์ใช้ทฤษฎีสู่การปฏิบัติ
  • เป็นแนวทางสำหรับองค์กรอื่นที่ประสบปัญหาคล้ายกัน

แผนการดำเนินงาน (Timeline)

สอบเค้าโครงสารนิพนธ์

เดือนที่ 1

เก็บรวบรวมข้อมูล

เดือนที่ 2

วิเคราะห์ข้อมูล

เดือนที่ 3

สรุปผลและจัดทำร่าง

เดือนที่ 4

จัดทำรูปเล่มฉบับสมบูรณ์

เดือนที่ 5

เสนอสอบป้องกันสารนิพนธ์

เดือนที่ 6

ขอขอบคุณครับ

เปิดรับฟังข้อคิดเห็นและข้อเสนอแนะจากคณะกรรมการ